แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ (Generator Battery) คือ อุปกรณ์ให้กำลังไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ (Generator) สำหรับใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟสำรองเวลาฉุกเฉิน

ที่ GBLESSBATTERY เรามีแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟหลายรุ่นให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะแบตตะกั่วกรดหรือแบตลิเธียมไอออน สำหรับเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก-ใหญ่ พร้อมรับประกันสินค้าและมีบริการหลังการขาย

สินค้า แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ

ตารางสเปค/ราคา แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ แบบไหนดี?

แบตเครื่องปั่นไฟ ตะกั่วกรด (Lead-Acid)

แบตเครื่องปั่นไฟ ตะกั่วกรด แบตชนิดแรกที่ส่วนมากใช้กับเครื่องปั่นไฟ มีราคาไม่สูง ทนทาน อายุการใช้งานนาน 5-7 ปี เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป มีหลายประเภทย่อยให้เลือกตามลักษณะการใช้ คือ

  • แบตตะกั่วกรดแบบน้ำ (Flooded Lead-Acid) ต้องเติมน้ำกลั่นประจำ
  • แบตตะกั่วกรดแบบปิดผนึก (Sealed Lead-Acid – SLA) ไม่ต้องดูแลมาก
  • แบตตะกั่วกรดแบบจ่ายกระแสไฟหนัก (Deep-Cycle Lead-Acid) สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง

ข้อเสียของแบตตะกั่วกรด คือมีน้ำหนักมาก ชาร์จได้น้อยครั้ง (200-300 รอบ) ต้องชาร์จทุก 3-4 เดือนเพื่อป้องกันการซัลเฟต (Sulfate) และมีบางรุ่นเสี่ยงรั่วซึมของเหลวอิเล็กโทรไลต์

แบตเครื่องปั่นไฟ ลิเธียมไอออน (Li-ion)

แบตเครื่องปั่นไฟ ลิเธียมไอออน เทคโนโลยีใหม่สำหรับเครื่องปั่นไฟ มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด จ่ายกระแสไฟสูง ชาร์จไฟได้หลายครั้ง (1,000 รอบขึ้นไป) ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องคอยเติมน้ำ ไม่มีปัญหารั่วซึม เหมาะสำหรับเครื่องปั่นไฟแบบพกพา หรือใช้งานหนัก

แต่แบตลิเธียมราคาสูงกว่าแบบตะกั่วกรด ไม่คุ้มถ้าใช้งานน้อย ควรเก็บในที่ไม่ร้อนจัด และต้องระวังไม่ให้เสียหายเพราะอาจลุกไหม้หรือระเบิดได้ รวมถึงต้องใช้เครื่องชาร์จที่ออกแบบมาเฉพาะเท่านั้น

ยี่ห้อไหนดี? วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ

1. ประเภทของแบตเตอรี่ (Battery Type)

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แบตเตอรี่ตะกั่วกรด (Lead-Acid Battery) สำหรับเครื่องปั่นไฟที่ติดตั้งถาวร กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion Battery) เหมาะกับเครื่องปั่นไฟที่ต้องเคลื่อนย้าย พกพา หรือใช้งานต่อเนื่องเป็นประจำ การเลือกประเภทแบตต้องดูจากลักษณะการใช้เป็นหลัก

2. ความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity)

การเลือกความจุแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ ต้องพิจารณาจากพิกัดกำลังไฟของเครื่องปั่นไฟ (Watt) และระยะเวลาที่ต้องการให้จ่ายไฟ (ชั่วโมง) เพื่อคำนวณหาความจุขั้นต่ำที่ต้องการ โดยใช้สูตร

ความจุแบตเตอรี่ (Ah) = กำลังไฟเครื่องปั่นไฟ (W) x เวลาที่ใช้ (ชม.) / แรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ (V)

ตัวอย่างเช่น ถ้ามีเครื่องปั่นไฟขนาด 1000W ต้องการใช้ต่อเนื่อง 5 ชม. ผ่านแบตเตอรี่ 12V จะต้องใช้แบตเตอรี่ความจุอย่างน้อย (1000 x 5) / 12 = 416.67 Ah ครับ

ในทางปฏิบัติ แนะนำควรเผื่อความจุแบตเตอรี่ให้สูงกว่าค่าที่คำนวณได้ 20-30% เพื่อชดเชยการสูญเสียแรงดันไฟขณะใช้งาน ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

3. อัตรากระแสไฟที่จ่ายออกได้ต่อเนื่อง (Continuous Discharge Rate)

ค่า Continuous Discharge Rate คือ ค่ากระแสไฟสูงสุดที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายออกได้ต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้แรงดันไฟตกหรือแบตเตอรี่เสียหาย ส่วนมากระบุเป็นค่าจำนวนเท่าของความจุแบต เช่น 1C สามารถจ่ายกระแสไฟเท่ากับความจุแบตเตอรี่ได้ใน 1 ชม. 2C คือจ่ายได้ 2 เท่าของความจุใน 30 นาที 0.5C คือจ่ายได้ครึ่งหนึ่งของความจุใน 2 ชม.

ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ 12V 100Ah ระบุค่า Continuous Discharge เป็น 0.5C หมายถึงสามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 100 x 0.5 = 50 A ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชม.

การเลือกแบตที่รองรับ Continuous Discharge Rate สูง จะสามารถจ่ายกระแสไฟได้มากและต่อเนื่องนานกว่า เหมาะสำหรับเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง แต่ราคาก็สูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปด้วย

4. อายุการใช้งาน (Battery Lifespan)

อายุการใช้งานแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ ระยะเวลานับตั้งแต่เริ่มใช้ไปจนความจุลดลงเหลือ 80% ของความจุเริ่มต้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • จำนวนรอบการชาร์จ-จ่ายประจุ (Charge-discharge Cycle)
  • อุณหภูมิกับสภาพแวดล้อมขณะใช้งาน
  • รูปแบบและปริมาณกระแสไฟที่จ่าย
  • การดูแลรักษา
  • คุณภาพของแบตเตอรี่

ทั่วไป แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบธรรมดา ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 300-500 รอบ (ประมาณ 3-5 ปี), แบตเตอรี่ AGM และ Gel Cell มีอายุ 500-1,000 รอบ (ประมาณ 5-7 ปี) ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน อาจมีอายุได้ถึง 2,000-5,000 รอบ (มากกว่า 10 ปี) แนะนำเลือกแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน

5. ขนาดและน้ำหนัก (Size and Weight)

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟมีหลายขนาดให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 20Ah ถึง 200Ah ขึ้นไป ส่วนน้ำหนักมี 5-6 กก. จนถึงหลักร้อยกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับชนิดและความจุแบตเตอรี่

แบตแบบตะกั่วกรดจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าแบตลิเธียม เมื่อเทียบความจุเท่ากัน ถ้าต้องการแบตเตอรี่ที่พกพาหรือเคลื่อนย้ายง่าย น้ำหนักเบา แต่มีความจุสูง ส่วนมากก็เลือกแบตเตอรี่ลิเธียมมากกว่า

6. มาตรฐานและการรับรองคุณภาพ

การเลือกซื้อแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ แนะนำควรเลือกแบตเตอรี่ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น

  • มาตรฐาน Underwriters Laboratories (UL) ของสหรัฐอเมริกา
  • มาตรฐาน International Electrotechnical Commission (IEC)
  • มาตรฐาน Japanese Industrial Standards (JIS)
  • มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของไทย

รวมถึงแบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟที่มีเครื่องหมายรับรอง เช่น CE (Conformité Européenne), ROHS (Restriction of Hazardous Substances Directive) แสดงให้เห็นคุณภาพกับความปลอดภัยว่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ ซื้อที่ GBlessBattery

ที่ GBLESSBATTERY เราคัดจำหน่าย แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ มาตรฐานสากล เช่น UL, CE, ISO ทั้งแบตตะกั่วกรดและลิเธียมไอออน ตั้งแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่ บริการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญ รับประกันสินค้านานสูงสุด 2 ปี และมีการดูแลหลังการขาย

ข้อสงสัยที่พบบ่อย (FAQ) แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ ขนาดต้องตรงกับตัวเครื่องไหม?

ใช่ครับ ต้องเลือกแบตที่มีขนาดแรงดันไฟตรงกับข้อกำหนดในคู่มือการใช้งานเครื่องปั่นไฟ ส่วนมากเป็น 12V, 24V หรือ 48V ห้ามใช้แบตเตอรี่ที่โวลต์ต่างจากที่ระบุเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระบบชาร์จไฟหรือตัวเครื่องปั่นไฟเสียหาย รวมถึงควรเลือกความจุ (Ah) ของแบตให้มากกว่าพิกัดกำลังไฟของเครื่องปั่นไฟ 1.5 เท่าด้วย

แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟที่ใช้งานนาน ๆ ความจุไฟฟ้าอาจลดลงจนเก็บประจุได้ไม่เต็ม 100% เพราะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน วิธีแก้ไขคือ

  1. นำแบตเตอรี่ไปชาร์จจนเต็ม และปล่อยทิ้งไว้ 1 คืน รอให้ประจุลดลงเอง แล้วค่อยชาร์จใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูสภาพการเก็บประจุไฟของแบตเตอรี่
  2. ถ้าเป็นแบตตะกั่วกรดแบบน้ำ ให้ตรวจเช็คระดับกับความถ่วงจำเพาะของน้ำกรด ถ้าต่ำกว่าปกติให้เติมน้ำกลั่นหรือปรับความเข้มข้นจนเหมาะสม
  3. ทำตามข้อ 1-2 ไม่ดีขึ้น ให้สันนิษฐานก่อนว่าแบตเตอรี่เสื่อมมากแล้ว ไม่สามารถเก็บประจุได้ตามปกติ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

ไม่แนะนำใช้แบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไปกับเครื่องปั่นไฟครับ เพราะถึงแบตรถยนต์จะมีแรงดันไฟ 12V เหมือนกัน แต่มีไว้เพื่อสตาร์ทรถยนต์เป็นหลัก ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟต่อเนื่องหรือจ่ายกระแสไฟสูงเป็นเวลานาน ๆ การใช้แบตรถยนต์กับเครื่องปั่นไฟโดยตรง จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บประจุได้ไม่นาน และอาจเสี่ยงเสียหายหรือระเบิดได้

ใช่ครับ สำหรับเครื่องปั่นไฟที่ให้กระแสไฟฟ้าสลับ (Alternating Current – AC) จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ต่อระหว่างแบตเตอรี่กับเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อแปลงกระแสไฟจากแบตเตอรี่ กระแสตรง (Direct Current – DC) เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ

แนะนำเลือกขนาดของอินเวอร์เตอร์ให้มีกำลังไฟมากกว่า หรือเท่ากับพิกัดกำลังไฟสูงสุดของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ผ่านเครื่องปั่นไฟ ยกเว้นเครื่องปั่นไฟบางรุ่นที่มาพร้อมวงจรอินเวอร์เตอร์ในตัว ก็สามารถต่อใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ได้เลย

นโยบายการรับประกัน แบตเตอรี่เครื่องปั่นไฟ ของ GBLESSBATTERY มีระยะเวลา 2 ปี ครอบคลุมเฉพาะกรณีที่แบตมีข้อบกพร่องเสียหายจากกระบวนการผลิตครับ

ไม่รวมการเสื่อมสภาพจากการใช้งานตามปกติ การเก็บรักษาและบำรุงรักษาไม่ถูกวิธี การใช้งานผิดประเภท หรือการดัดแปลงซ่อมแซมโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าแบตเตอรี่เสียหายใต้เงื่อนไขการรับประกัน บริษัทจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย